การทำขนมตาล
ขนมตาล
เป็นขนมไทยแท้ดั้งเดิม และเริ่มหาซื้อรับประทานยากขึ้น
ตามจำนวนของต้นตาลที่นับวันจะลดน้อยลงไป ความเด่นของขนมตาล
อยู่ที่ความหอมหวลของน้ำคั้นจากผลตาลสุกงอม ความหวานมันที่ได้จาก
มะพร้าวขูดเป็นเส้นโรยอยู่หน้าขนม ว่ากันว่าที่ใดมีต้นตาลที่นั่นต้องมี
ขนมตาล เพราะต้นตาลเป็นไม้ยืนต้นที่ให้ประโยชน์กับคนไทยมากมาย
นับแต่ลูกตาลเนื้อนิ่มใสหวานชื่นใจ ที่จะรับประทานสด ๆ หรือนำไปเชื่อม
รับประทานกับน้ำแข็งก็อร่อยไม่แพ้กัน จาวตาล
หรือส่วนที่อยู่ด้านใน ของเมล็ดตาลที่แก่จัด เฉาะเอามาเชื่อมกับน้ำตาลก็รับประทานได้
แถมน้ำ หวานที่ได้จากงวงตาลก็นำมาทำน้ำตาลโตนด ที่มีความหอมและหวาน
แหลมอย่างที่น้ำตาลทรายก็สู้ไม่ได้ คนไทยนิยมเอามาปรุงอาหารไทย
ส่วนผสมการทำขนมตาล
1. )
ลูกตาลสุก
1 ผล
2.)
ข้าวสารเก่า
2 ถ้วยตวง
3. )
แป้งท้าวยายม่อม
1/4 ถ้วยตวง
4.)
น้ำตาลทราย
2 ถ้วยตวง
5.)
หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
6.)
มะพร้าวทึกขูดฝอย
2 ถ้วยตวง
7.)
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ขั้นตอนการทำขนมตาล
1.
อันดับแรกต้องลอกเปลือกลูกตาลออกให้หมด แล้วขูดเอาเนื้อสีเหลืองออก
ตัวลูกตาลแช่น้ำไว้จนเนื้อลูกตาลละลายออกหมด ใช้ผ้าห่อเนื้อลูกตาล
และน้ำที่ละลายผูกมัดปากรวมไว้ให้แน่นแขวนหรือทับไว้ให้แห้ง
ลูกตาลสุก
ล้าง ปอก ขูดเนื้อตาลออก
เนื้อตาลที่ได้
ส่วนเมล็ดตาลนำไปขยำกับน้ำให้เนื้อออกให้หมด
กรองด้วยกระชอน
แล้วกรองด้วยถุงผ้าขาวหนา แขวนไว้ให้น้ำตกจนหมด
ทำก่อนใช้ 1 คืน
2. โม่ข้าวสารที่แช่น้ำไว้ให้ละเอียด แล้วทับให้แห้ง
3. จากนั้นผสมข้าวสารที่โม่และทับจนแห้งแล้ว รวมกับแป้งท้าวยายม่อม และลูกตาลที่ทับจนแห้งแล้วนวดส่วนผสมทั้งหมด เข้าด้วยกันจนแป้งที่ผสมเนียนและนุ่มมือ ( ประมาณ 30-60 นาที ) ใส่น้ำตาลสลับกับหัวกะทิ นวดจนหัวกะทิและน้ำตาล ละลายหมด พักไว้ประมาณ 5-10 ชั่วโมง
3. จากนั้นผสมข้าวสารที่โม่และทับจนแห้งแล้ว รวมกับแป้งท้าวยายม่อม และลูกตาลที่ทับจนแห้งแล้วนวดส่วนผสมทั้งหมด เข้าด้วยกันจนแป้งที่ผสมเนียนและนุ่มมือ ( ประมาณ 30-60 นาที ) ใส่น้ำตาลสลับกับหัวกะทิ นวดจนหัวกะทิและน้ำตาล ละลายหมด พักไว้ประมาณ 5-10 ชั่วโมง
นำเนื้อตาลที่ได้มานวดกับแป้งแล้วเติมกะทิ(ผสมกับน้ำตาลทรายตั้งไฟให้เดือดพักให้เย็น)
นวดเนื้อลูกตาลกับแป้งข้าวเจ้าให้เข้ากัน
แล้วค่อยๆเติมกะทิที่เคี่ยวไว้จนหมด
4. ขั้นตอนรองสุดท้ายให้ตักแป้งที่ผสมแล้วใส่กระทงหรือถ้วยตะไล
โรยมะพร้าว
แล้วนึ่งให้สุกยกลงถ้าใส่ถ้วยตะไลรอให้เย็นก่อนแล้วจึงนำออกจากถ้วยจัดใส่ภาชนะ
BYE . . . BYE
















ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น